ศาลจังหวัดยโสธร จัดงานวันรพี ประจำปี 2568 ถวายสักการะพระบิดาแห่งกฎหมายไทย

วันที่ 7 สิงหาคม 2568 ณ บริเวณหน้าอาคารศาลจังหวัดยโสธร ได้มีการประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตร และวางพวงมาลา เนื่องในวันรพี ประจำปี พ.ศ. 2568 เพื่อรำลึกถึงพระปรีชาสามารถและพระคุณูปการของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ พระบิดาแห่งกฎหมายไทย อย่างสมเกียรติ โดยมีนายคงสิทธิ์ รักขิตกูล ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดบัวใหญ่ ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดยโสธร เป็นประธานการประกอบพิธี

ในโอกาสนี้ นายสันชัย พัฒนะวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ได้เข้าร่วมพิธีเพื่อความเป็นสิริมงคล และได้วางพวงมาลาเพื่อถวายสักการะเบื้องหน้าพระรูปของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ร่วมกับคณะผู้พิพากษา อัยการ ทนายความ เจ้าหน้าที่ศาล และผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน

ทั้งนี้พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่ 14 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) และเจ้าจอมมารดาตลับ ประสูติเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2417 ทรงได้รับการยกย่องเป็น “พระบิดาแห่งกฎหมายไทย” จากพระปรีชาสามารถและคุณูปการอันใหญ่หลวงที่ทรงมีต่อวงการนิติศาสตร์ของประเทศ ทรงสำเร็จการศึกษาวิชากฎหมายระดับปริญญาตรี (เกียรตินิยม) จากมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ประเทศอังกฤษ ด้วยพระชันษาเพียง 20 ปี การศึกษาในระบบกฎหมายแบบ Common Law ของอังกฤษนี้เอง ได้หล่อหลอมให้พระองค์ทรงมีมุมมองที่ทันสมัยและเล็งเห็นถึงความจำเป็นในการปฏิรูปกฎหมายและการศาลของสยามประเทศ ซึ่งในขณะนั้นยังคงมีความล้าหลังและเผชิญกับปัญหาการถูกแทรกแซงจากมหาอำนาจตะวันตก เมื่อเสด็จนิวัติกลับประเทศไทย ทรงเข้ารับราชการและสร้างคุณูปการที่พลิกโฉมวงการยุติธรรมของไทยอย่างใหญ่หลวง โดยทรงก่อตั้งโรงเรียนกฎหมายขึ้นในกระทรวงยุติธรรม (ปัจจุบันพัฒนามาเป็นคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์) เพื่อผลิตนักกฎหมายที่มีความรู้ความสามารถตามหลักสากล ซึ่งถือเป็นการวางรากฐานการศึกษากฎหมายสมัยใหม่ของไทย ทรงปฏิรูประบบศาลขณะทรงดำรงตำแหน่ง เสนาบดีกระทรวงยุติธรรม โดยทรงจัดระเบียบศาลต่างๆ ทั่วราชอาณาจักรให้มีมาตรฐานเดียวกัน และปรับปรุงกระบวนการพิจารณาคดีให้มีความเป็นธรรมและรวดเร็วยิ่งขึ้น ทรงเป็นกำลังสำคัญในการตรวจชำระและร่างประมวลกฎหมายฉบับแรกๆ ของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "กฎหมายลักษณะอาญา ร.ศ. 127" (พ.ศ. 2451) ซึ่งถือเป็นประมวลกฎหมายที่ทันสมัยและเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ช่วยให้สยามรอดพ้นจากการเสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขต ทรงให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อความซื่อสัตย์สุจริตและจริยธรรมของผู้พิพากษาและนักกฎหมาย เพื่อให้ศาลเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างแท้จริงโดยพระองค์สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2463 ด้วยพระชนมายุเพียง 47 พรรษา เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระเกียรติคุณและพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ วงการนักกฎหมายไทยจึงได้กำหนดให้วันที่ 7 สิงหาคมของทุกปีเป็น “วันรพี” เพื่อจัดกิจกรรมถวายสักการะและน้อมรำลึกถึงพระองค์ท่านในฐานะ "พระบิดาแห่งกฎหมายไทย" ผู้ทรงวางรากฐานความยุติธรรมอันมั่นคงให้แก่ประเทศชาติตราบจนปัจจุบัน

********************
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร
ทินกร ข่าว/ สุภาพร ภาพ
 

แชร์ข่าวนี้