วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ห้องประชุมอัมราวดี 1 โรงแรมเดอะกรีนปาร์ค แกรนด์ จังหวัดยโสธร นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดการขับเคลื่อนคุณภาพการศึกษา : จากนโยบายสู่การปฏิบัติ การศึกษายโสธร : โอกาสและความเท่าเทียม ตามนโยบาย เรียนดี มีความสุข : จับมือไว้แล้วไปด้วยกัน โดยมีนายชาญชัย ศรศรีวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร นางสาวพัชลี เชาว์พลกรัง ศึกษาธิการจังหวัดยโสธร ตลอดจนคณะผู้บริหารสถานศึกษาในจังหวัดยโสธร ประธานเครือข่ายสถานศึกษา นักวิชาการ ครู อาจารย์ นักเรียนและนักศึกษา ร่วมให้การต้อนรับ รับฟังนโยบาย และร่วมกิจกรรม
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ในโอกาสที่ได้มาร่วมกิจกรรมของจังหวัดยโสธรในครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธรที่ได้ให้ความสำคัญกับการศึกษาเป็นอย่างมาก ซึ่งในวันนี้ทำให้ได้รับทราบเกี่ยวกับเรื่อง Zero Dropout ของจังหวัดยโสธร ที่มีผลการดำเนินการที่น่าพอใจ เนื่องจากได้มีการค้นหาเด็กได้ครบถ้วนแล้ว ซึ่งมีอยู่ทั้งสิ้น 3,662 คน หลังจากนี้จะมีการดำเนินการตามกระบวนการที่กระทรวงศึกษาธิการให้ไว้คือหลังการค้นหา จะเป็นการช่วยเหลือ ส่งต่อ และดูแล โดยยังต้องเพิ่มอีกเรื่องคือการป้องกันไม่ให้เด็กกลับมาหลุดการศึกษาอีกครั้ง ซึ่งเรื่องนี้ต้องขอความกรุณาจากทางจังหวัดเพราะหากกระทรวงศึกษาธิการทำโดยลำพัง อาจจะมีกำลังไม่พอ ดังนั้น จึงต้องมีสหวิชาชีพ มีหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการช่วย และหวังว่าจังหวัดยโสธรจะเป็นอีกจังหวัดที่จะเป็นโครงการนำร่อง Pilot Project ของประเทศไทย ส่วนเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าเป็นอีกเรื่องที่มีการหารือกันในวันนี้ และอยากขอเชิญชวนสถานศึกษาให้มีความเข้มข้นในนี้และช่วยกันขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพในสถานศึกษา ที่นอกจากการดูแลเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าแล้ว ยังจะต้องดูแลเรื่องสุขภาวะโดยรวมของเด็กในโรงเรียนด้วย ซึ่งกลไกที่เป็นประโยชน์คือการช่วยกันตรวจตราบริเวณโรงเรียนและแจ้งเบาะแส ในกรณีที่พบเห็นร้านค้าที่จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าให้กับนักเรียน และสิ่งที่สำคัญอีกอย่างคือต้องฝากผู้ปกครอง เพราะเวลาส่วนใหญ่เด็กจะอยู่กับผู้ปกครอง พ่อแม่ดังนั้นเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ผู้ปกครอง คุณครูในโรงเรียน และสังคม สำหรับแนวทางการศึกษาในปี 2568 นี้จะมีการปรับเปลี่ยนหลักสูตรการศึกษา สำหรับ ป. 1 - ป. 3 โดยจะมีการยกเลิกกลุ่มสหวิชา และจะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการสอนให้เป็น activity based learning ที่เป็นกระบวนการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการสร้างสรรค์ทางปัญญา ให้เด็กได้มีการพัฒนาทั้งในเรื่องของความรู้ สภาวะจิตใจ และสุขภาพ ควบคู่กันไป นอกจากนี้ยังมีในเรื่องของการนำเอาเทคโนโลยี ai มาใช้ในการอ่านค่าคะแนน O-net ของแต่ละสถานศึกษา และทำเป็นข้อเสนอแนะในเชิงนโยบาย ให้ผู้บริหารสถานศึกษานำผลคะแนนนั้นมาปรับปรุง เพราะก่อนหน้านี้จะรู้เพียงว่าเด็กเก่งมีกี่คน ค่าเฉลี่ยของโรงเรียนเป็นอย่างไร แต่เมื่อใช้ระบบตัวนี้เพิ่มเข้ามาจะทำให้สามารถอธิบายได้ถึงขั้นที่ว่า การกระจายตัวของเด็กกลุ่มไหน ข้อสอบที่ทำได้เป็นอย่างไร การเรียนสอนลักษณะไหนที่จะส่งผลต่อผลการเรียนของเด็กทำให้มีศักยภาพ ตามนโยบาย เรียนดี มีความสุข
********************
#สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร / ข่าว