จังหวัดยโสธรจัดยิ่งใหญ่ รวมพลัง เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 

          วันที่  2  พฤศจิกายน  2567  เวลา 15.30 น. นายชรินทร์  ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธานเปิดกิจกรรมเดินวิ่ง ตามโครงการ “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10  เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล   เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ  28  กรกฎาคม 2567 โดยมี นางสินีนาฏ ทองสุข นายกเหล่ากาชาดจังหวัดยโสธร  นายสุวัฒน์  เข็มเพชร  รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร นายชาญชัย ศรศรีวิชัย  รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร  คณะผู้บริหารสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยโสธร  พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ  ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ภาครัฐ ภาคเอกชน  และประชาชนชาวยโสธรเข้าร่วมกิจกรรมเดิน วิ่ง กว่า 1,500 คน  ณ บริเวณสวนสาธารณะบุ่งน้อย–บุ่งใหญ่ ตำบลในเมือง  อำเภอเมืองยโสธร  จังหวัดยโสธร 
   การจัดงานของจังหวัดยโสธร ประกอบด้วยกิจกรรม การจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว   การจัดนิทรรศการให้ความรู้โรคหลอดเลือดสมอง  การเขียนคำปณิธานทำความดี  และพิเศษคือจังหวัดยโสธรได้ให้ผู้ร่วมงานแปรอักษร หมายเลข 10 เพื่อถวายความจงรักภักดีและเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก่อนการออกกำลังกาย เดิน วิ่ง ระยะทาง 4 กิโลเมตร โดยจังหวัดยโสธร มีสนามวิ่งทั้งหมด 4 สนามคือ สนามอำเภอเมืองยโสธร  สนามอำเภอมหาชนะชัย  สนามอำเภอเลิงนกทา และสนามอำเภอกุดชุม 
                 โดย ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ประธานในพิธี เปิดกรวยถวายราชสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  กล่าวคำถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ  และนำผู้ร่วมกิจกรรมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี จากนั้นนายแพทย์รัฐศาสตร์ สุดหนองบัว รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยโสธร กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงานต่อประธานในพิธี  จากนั้นประธานกล่าวเปิดงาน   เมื่อเสร็จพิธีเปิดกิจกรรมแล้วทุกคนได้อบอุ่นร่างกายพร้อมกัน  และประธานทำการยิงแตรลมปล่อยตัวผู้ร่วมเดินวิ่งตามเส้นทางที่กำหนด ซึ่งจังหวัดยโสธรได้จัดกิจกรรมได้อย่างยิ่งใหญ่ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล   เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567   และทรงเป็นแบบอย่างแก่ประชาชนชาวไทย ในการรักษาสุขภาพ และการออกกำลังกาย โดยกิจกรรมในงานเน้นสร้างความตระหนักรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องในการป้องกัน ดูแล และรักษาโรคหลอดเลือดสมอง โดยบูรณาการความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐ  ภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  ร่วมจัดกิจกรรม ตามโครงการ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติ การจัดกิจกรรมในหัวข้อ “คนไทยสมองดี” (Healthy Thais : Healthy Brains)”  จัดพร้อมกันทั่วประเทศ 
  สำหรับ สถานการณ์โรคหลอดเลือดสมอง จังหวัดยโสธร  พบว่า จากรายงานการศึกษาโรคและการบาดเจ็บของประชากรไทยพบว่ามีผู้ป่วยเสียชีวิต จากโรคหลอดเลือดและหัวใจทั่วโลกประมาณ 16.7 ล้านคนต่อปี ในจำนวนนี้เกิดจากโรคหลอดเลือดสมองประมาณ 5.5 ล้านคน ในประเทศไทยพบผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองประมาณ 1,880 คน ต่อประชากรจำนวนหนึ่งแสนคน หรือร้อยละ 2  ซึ่งถือเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่ง นอกจากนั้นโรคนี้ยังมีอัตราความพิการสูง จากการศึกษาในประเทศไทยพบว่าในผู้ป่วย 100 คน  ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล จะเสียชีวิตร้อยละ 5 และพิการร้อยละ 70 ซึ่งหากประชาชนได้รับความรู้ทั้งแนวทางป้องกัน  และสามารถปฏิบัติตนได้อย่างถูกวิธี   โรคหลอดเลือดสมองเป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ ร้อยละ 90 เพียงปรับพฤติกรรมเพื่อเลี่ยงความเสี่ยง  สำหรับจังหวัดยโสธร 3 ปีย้อนหลัง พบอัตราป่วยรายใหม่และอัตราตายด้วย โรคหลอดเลือดสมอง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ในปี 2567 พบผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 1,583 ราย คิดเป็นอัตราป่วยรายใหม่ 299.31 ต่อประชากรแสนคน 
  อย่างไรก็ตามมีข้อแนะนำสำหรับประชาชนในการตระหนักรู้ถึงอาการหรือสัญญาณเตือนของโรคหลอดเลือดสมอง (อัมพฤกษ์ อัมพาต) ด้วยตนเองตามหลักการ F.A.S.T ดังนี้ F (Face) ใบหน้าชาหรืออ่อนแรง หน้าเบี้ยว มุมปากตกข้างหนึ่ง ตามัวเห็นภาพซ้อน  A (Arm) แขนหรือขาอ่อนแรงข้างใดข้างหนึ่ง ยกแขนหรือขาไม่ขึ้นหรือยกได้น้อยลง กำมือได้ลดลง ชาตามแขนขาหรือรู้สึกน้อยลง เดินเซ S (Speech) พูดลำบาก พูดไม่ชัด มึนงงสับสน และมีปัญหาในการพูด  T (Time) ต้องรีบไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุดทันที และโทรสายด่วน 1669  สิ่งสำคัญคือ หากพบอาการดังกล่าวข้างต้น แม้ไม่แน่ใจว่าเกิดจากโรคหลอดเลือดสมองหรือไม่ก็ควรพบแพทย์ให้เร็วที่สุดเพื่อจะได้รับการวินิจฉัย รักษาและฟื้นฟูให้กลับมาเป็นปกติมากที่สุด จะช่วยลดการเสียชีวิตและความพิการได้ ดังนั้น ขอเน้นว่าเร็วที่สุด ยิ่งรักษาเร็วจะมีโอกาสหายมาก ผลแทรกซ้อนต่ำ และความพิการน้อยลง …/// 

**********
#สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร  / ข่าว

แชร์ข่าวนี้