สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยโสธร จัดกิจกรรมทำบุญตักบาตรย้อนยุควิถีถิ่น วิถีไทย ใส่ชุดไทยนั่งสาดใส่บาตรทุกวันศุกร์ของสัปดาห์ ณ ถนนคนเดินยโสธร เมืองเก่าบ้านสิงห์ท่า วันศุกร์ที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๖๕

????️ วันศุกร์ที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๖๕ เวลา ๐๖.๐๐ น.

???? สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยโสธร ร่วมกับส่วนราชการ เทศบาลเมืองยโสธร จัดกิจกรรมตักบาตรย้อนยุค วิถีถิ่น วิถีไทย ถนนคนเดินยโสธร เมืองเก่าบ้านสิงห์ท่า ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ ณ ถนนคนเดินหน้าศาลหลักเมืองยโสธร ตำบลในเมือง อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร โดยมีนางสาววาสนา ไชยพรรณา วัฒนธรรมจังหวัดยโสธร พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงาน ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และพุทธศาสนิกชน ร่วมตักบาตร มีพระภิกษุ/สามเณร ออกรับบิณฑบาต จำนวน ๑๗ รูป มีส่วนราชการ หน่วยงาน องค์กร และพุทธศาสนิกชน เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน ๘๙ คน รวม ๑๐๖ รูป/คน

???? โอกาสนี้ พระครูอนุรักษ์วรดิตถ์ เจ้าคณะอำเภอเมืองยโสธร เจ้าอาวาสวัดสิงห์ท่า ประธานฝ่ายสงฆ์ ได้กล่าวสัมโมทนียกถาแก่พุทธศาสนิกชนที่มาร่วมทำบุญตักบาตรว่า

" ในคราวครั้งหนึ่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงแสดงธรรมเทศนาแก่พระภิกษุทั้งหลายด้วยคาถาบทหนึ่งซึ่งในโอกาสวันนั้นได้ปรากฏเหตุที่ได้มีประชาชนได้กล่าวถึงคนผู้หนึ่งที่เขาได้กระทำบุญ แต่ว่าเพียงแค่ทำบุญในวันนั้นเขาก็ได้ประสบอานิสงส์ของผลบุญที่ได้กระทำในวันนั้น ก็เลยกล่าวขานกันว่า บุคคลผู้นั้นเขาเข้าใจทำบุญจริงๆ เลยได้อานิสงส์โดยพลัน พระพุทธองค์จึงกล่าวว่า “อภิตฺถเรถ กลฺยาเณ ปาปา จิตฺตํ นิวารเย” ภิกษุทั้งหลาย เมื่อบุคคลตั้งใจจะทำในสิ่งที่ดีแล้ว จงรีบเร่งกระทำเสีย และก็จงห้ามความคิดตัวเอง เพราะว่าถ้าหากบุคคลทำช้า ตั้งใจจะทำในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง และเป็นสิ่งที่ดีงามเป็นสิ่งที่เหมาะสม เป็นสิ่งที่ถูกต้อง เป็นสิ่งที่อยากระทำ ก็ต้องรีบทำเสียในวันนั้น อย่าปล่อยกาลให้มันล่วงเลยไป เพราะว่าถ้าปล่อยกาลให้ล่วงเลยไปแล้ว สิ่งที่จะมาห้ามเรานั้นก็คือจิตใจ ท่านบอกว่าเราจะทำสิ่งใดก็ตาม ที่ถูกต้องดีงามแล้วมักจะมีมารเสมอ คือจะมีผู้ขัดขวางเสมอ ผู้ที่ไม่เห็นด้วย เรียกกันว่า เป็นเหมือนกันกับมาร บางคนตั้งใจอยากจะทำสิ่งนั้น สิ่งนี้ อันเป็นสิ่งที่ถูกต้องดีงามจะเป็นประโยชน์แก่ตัวเอง หมู่คณะ ชุมชน และแก่บ้าน แก่เมือง มักจะมีคนเข้ามากกระแหนะกระแหน มีคนเข้าพูดท้วงติงว่าสิ่งนั้นไม่ควรนะ สิ่งนี้ไม่ควรนะ เมื่อทำแล้วจะไม่ได้อย่างโน้นอย่างนี้ คนที่ตั้งใจกระทำก็เกิดความลังเลว่ามันจะเป็นไปอย่างนั้นไหม บางครั้งตั้งใจอยากจะทำวันนี้แต่พอได้ยินคำพูดของคนอื่นก็เกิดความลังเล ก็ขอเลื่อนไปเป็นวันพรุ่งนี้ค่อยทำ แล้วมานั่งคิดดูใหม่ แต่พอคิดทบทวนดูแล้วตลอดทั้งวันทั้งคืนก็ได้ผลสรุปผลปรากฏเหมือนกันกับวันแรก ดังนั้นคนที่เข้ามาท้วงติงก็เป็นแค่การท้วงติง พอท้วงเขาแล้วเขาก็ไม่ลงมือกระทำ ทำให้เรานั้น ทำให้เราที่ตั้งใจอยากจะทำมันก็ช้า เมื่อกิจการช้าผลที่จะได้มันก็ช้าตามไปด้วย ผลที่จะสำเร็จมันก็ช้าตามไปด้วย ดังนั้น พระพุทธองค์จึงกล่าวว่า ถ้าสิ่งอื่นสิ่งใดที่จะเป็นบุญเป็นกุศล และเป็นสิ่งที่ดีงามต้องรีบเร่งกระทำเสียก่อนที่ความคิดอันเป็นเครื่องใฝ่ต่ำจะดึงจิตใจลง ท่านกล่าวว่า น้ำปกติจะไหลลงสู่ที่ต่ำไม่ไหลขึ้นสู่ที่สูงโดยธรรมชาติ จิตใจของคนเราก็มักจะเป็นอย่างนั้น การที่จะนำน้ำขึ้นไปสู่ที่สูงต้องใช้กำลังมาก ต้องใช้อุปกรณ์เครื่องอุดหนุนมาก กว่าจะนำของขึ้นไปสู่ที่สูงได้ต้องใช้พละกำลังอย่างมากทีเดียว ถ้าจะนำน้ำไปสู่ที่สูงก็จะใช้อุปกรณ์ ใช้กำลังผลักดันอย่างมาก กว่าน้ำจะขึ้นไปสู่ที่สูง สิ่งของก็เหมือนกัน ถ้าเราจะนำขึ้นไปสู่ที่สูง เราก็จะใช้พละกำลังเป็นอย่างมากทีเดียว ยิ่งของนั้นหนัก ยิ่งของนั้นใหญ่ ก็จะต้องใช้พละกำลังอย่างมาก และการขึ้นนั้นก็ต้องเชื่องต้องช้ากว่าจะขึ้นสู่ที่สูงได้ จิตใจของคนเราก็เหมือนกัน การที่จะยกจิตใจขึ้นสู่ที่สูงจะต้องใช้พละกำลังมาก กำลังก็คือ กำลังบุญ กำลังกุศล กำลังความคิด กำลังศรัทธาตั้งมั่น กำลังที่ตั้งอกตั้งใจ ความเพียรพยายาม ความอุตสาหะ เพื่อจะนำจิตใจของตัวเองนั้นยกขึ้นให้สู่ที่สูง เมื่อจิตใจขึ้นสู่ที่สูงแล้ว จิตใจนั้นย่อมเอื้อ ย่อมอำนวย ยอมมองเห็นสรรพสิ่งที่อยู่เบื้องล่างได้เป็นอย่างดี ดังนั้น พระพุทธองค์จึงได้กล่าวว่า จงห้ามจิตใจของตัวเอง จากความอกุศลทั้งหลาย ทั้งปวงเหล่านี้ แล้วก็ต้องรีบเร่งขวนขวายทำ เพราะว่าถ้าทำช้าแล้วอุปสรรคก็คือมารที่จะเข้ามาทำให้กิจการที่เราตั้งใจจะทำตามสิ่งที่ดีงามนั้นช้าไปด้วย เมื่อช้าผลก็จะเกิดช้า ทุกๆ อย่างก็จะช้าไปด้วย ผลที่ได้ก็จะน้อยไปด้วย ดังนั้น ในโอกาสที่ทุกท่านได้มาร่วมกันด้วยดีเสมอๆ ในเช้าวันนี้ มาร่วมกันทำบุญใส่บาตร ขออานิสงส์ผลบุญที่เกิดขึ้นจากการกระทำได้ส่งผลดลบันดาลอำนวยพรให้ทุกๆ ท่าน ได้พบกับความสุขกาย สุขใจ อยู่ดีมีสุข ปราศจากทุกโศก โรคภัย ปรารถนาสิ่งหนึ่งประการใด ขอให้สิ่งที่ปรารถนาเหล่านั้น จงสัมฤทธิ์ผลิผลดังที่ปรารถนาทุกๆ ประการ ทุกๆ ท่าน เทอญ

???? ทั้งนี้ ผู้ร่วมกิจกรรมได้แต่งกายด้วยชุดผ้าไทย ผ้าท้องถิ่น อาทิ ผ้าลายลูกหวายหรือยศสุนทร ลายผ้าอัตลักษณ์จังหวัดยโสธร ซึ่งเป็นการสืบสานอนุรักษ์ผ้าพื้นถิ่น สร้างมูลค่าทางเศรฐกิจในชุมชน สอดคล้องตามนโยบายของกระทรวงวัฒนธรรมอีกด้วย

•••••••••••••••••••••••••••

???? รายงานโดย ????

กลุ่มยุทธศาสตร์และเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยโสธร

•••••••••••••••••••••••••••

????ยกระดับการบริการประชาชนและติดต่อราชการสู่โลกดิจิทัล????

ด้วยบริการแพลตฟอร์ม ???????????????? ???????????????? วัฒนธรรมยโสธร

คลิก ????opl.to/yasothonculture

แชร์ข่าวนี้