วันที่ 19 กรกฎาคม 2565 นายทรงศัก สายเชื้อ ผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วยหม่อมหลวงปุณฑริก สมิติ ที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดิน นายทิฆัมพร ยะลา ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบหน้าที่ของรัฐ ลงพื้นที่แก้ไขปัญหาให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างเขื่อนยโสธร – พนมไพร และเขื่อนธาตุน้อย เป็นจำนวนมากที่ลงทะเบียนความเดือดร้อนไปแล้วกว่า 496 ราย ณ พื้นที่บ้านบุ่งหวาย ตำบลสงเปือย อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร และมีกำหนดการลงพื้นที่แสวงหาข้อเท็จจริงที่จังหวัดร้อยเอ็ดในวันที่ 20 กรกฎาคม 2565
ทั้งนี้ผู้ตรวจการแผ่นดินจึงได้อาศัยอำนาจตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. 2560 หยิบยกเรื่องดังกล่าวมาพิจารณาตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช2560หมวด 5 หน้าที่ของรัฐ เพื่อร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน
สำหรับทั้งสองพื้นเป็นพื้นที่ที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างเขื่อนยโสธร-พนมไพร และเขื่อนธาตุน้อย ลุ่มน้ำชี ส่งผลให้ชาวบ้านลุ่มน้ำชีได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะ พื้นที่ทำการเกษตรถูกน้ำท่วมผิดปกตินาน 1-3 เดือน ทำให้ต้นข้าวเน่าตายต่อเนื่องกันกว่า 10 ปี ก่อปัญหาด้านสภาพเศรษฐกิจทั้งภายในครัวเรือนและชุมชน ผลกระทบระบบนิเวศเกิดการเปลี่ยนแปลงไป เกิดการอพยพโยกย้ายแรงงานเข้าสู่ภาคเมืองมากขึ้น เกิดการเปลี่ยนแปลงทางประเพณีและวัฒนธรรม โดยประชาชนได้เคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิมาโดยตลอดกว่า 14 ปีเพื่อให้รัฐบาลดำเนินการแก้ไขมาแล้วหลายรัฐบาล โดยมีข้อเรียกร้องคือ ให้เยียวยาชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อน และให้จัดทำแผนฟื้นฟูฐานทรัพยากรชุมชนเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร
ในวันที่ 21 กรกฎาคม 2565 ผู้ตรวจการแผ่นดินและคณะ มีกำหนดการร่วมประชุมหารือร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ผู้แทนกรมชลประทาน ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ผู้แทนสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาน้ำชีกลาง ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชีล่างและเซบายล่าง ผู้ทรงคุณวุฒิ นักวิชาการที่ศึกษาปัญหาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม ผู้แทนภาคประชาชน ณ ห้องประชุมโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชีกลาง อำเภอเชียงขวัญ จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อหารือประเด็นที่จะต้องพิจารณาถึงหลักกฎหมายที่เกี่ยวกับการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ การฟื้นฟูระบบสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ และการบริหารจัดการน้ำให้เกิดประสิทธิภาพ โดยจะได้มีการหารือสภาพปัญหา แนวทางการแก้ไขปัญหา ผลการดำเนินการที่ผ่านมา ปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้น แนวทางการเร่งรัดและมาตรการเยียวยาความเสียหายของผู้ได้รับผลกระทบจากก่อสร้างเขื่อน ปัญหาอุปสรรค แนวทางการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ และการถอดบทเรียนจากการดำเนินโครงการของรัฐ หลังจากนั้นผู้ตรวจการแผ่นดิน จะได้จัดทำรายงานการแสวงหาข้อเท็จจริงพร้อมข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเสนอต่อคณะรัฐมนตรีให้ทราบถึงการที่หน่วยงานของรัฐยังมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องครบถ้วนตามหมวด 5 หน้าที่ของรัฐ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธรข่าว 20 ก.ค. 65