ผวจ.นครพนม ร่วมงานประชาสัมพันธ์ผ้าศิลปาชีพเฉลิมพระเกียรติ 90 พรรษา สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมขับเคลื่อน “นาหว้า โมเดล” เพื่อสืบสาน รักษา ต่อยอด ผ้าไทย

      นายชาธิป รุจนเสรี  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม พลโทสรรเสริญ  แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ นางทัศนีย์  ผลชานิโก รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ นายดุสิต  สิงห์คีรี ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์เขต 2 ประชาสัมพันธ์จังหวัดและผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียง แห่งประเทศไทย ในพื้นที่ภาคอีสานตอนล่าง 9 จังหวัด พร้อมด้วยพัฒนาการจังหวัดนครพนม หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดนครพนม สมาชิกศูนย์ศิลปาชีพนาหว้า ผู้นำหมู่บ้าน เข้าร่วมงานประชาสัมพันธ์ผ้าศิลปาชีพเฉลิมพระเกียรติ 90 พรรษา สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2565 ที่วัดธาตุประสิทธิ์ อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม จัดโดยสำนักประชาสัมพันธ์เขต 2 (อุบลราชธานี) ร่วมกับสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัด 9 จังหวัดภาคอีสานตอนล่าง

      โดยผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมกล่าวถึงการขับเคลื่อนผ้าไทย ผ้าศิลปาชีพเฉลิมพระเกียรติ 90 พรรษา สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ว่าที่วัดธาตุประสิทธิ์ ตำบลนาหว้า อำเภอนาหว้า นอกจากจะมีพระธาตุประสิทธิ์ ที่ชาวนครพนม ให้ความเคารพศรัทธาแล้ว ยังมีความสำคัญที่เรียกว่าเกิด “สิ่งมหัศจรรย์” หลายประการคือ

เป็นจุดแรกเริ่มที่สมเด็จพระบรมราชินีพันปีหลวง เสด็จมาทรงช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยพร้อมกับพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และทอดพระเนตรเห็นผู้คนที่มาเฝ้ารับเสด็จสวมใส่ผ้าไหมที่ทอเองโดยทรงครุ่นคิดว่าจะช่วยเหลือชาวนาเหล่านี้ให้มีอาชีพเสริมทำเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้อย่างไร  โดยพระราชทานแนวความคิดไปสู่การปฏิบัติ ด้วยการส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่ทอผ้า เพื่อที่จะขายให้พระองค์ท่าน ก่อนเป็นที่มาของขาดทุนคือกำไร ทั้งเป็นการ ส่งเสริมให้ประชาชนใช้เวลาว่างจากการทำเกษตรกรรมให้เป็นประโยชน์ด้วยการทอผ้าเป็นอาชีพเสริมทรงจัดตั้งโครงการศิลปาชีพขึ้น เมื่อปี 2515 ถือเป็นโครงการ ศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรม ราชินีนาถ แห่งแรก โดยพระราชทานแนวทางให้ประชาชนทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม เพื่อจะได้พึ่งพาอาศัยช่วยเหลือกัน ซึ่งตรงกับหลักการบริหารสมัยใหม่ และโครงการศิลปาชีพมีอายุครบ 50 ปีในปีที่สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 90 พรรษา  พร้อมนี้ ทรงมีพระราชนัดดา เข้ามาสืบสานรักษาต่อยอดและเสด็จพระราชดำเนินมาที่วัดหน้าหว้า ในปีที่ครบ 50 โครงการศิลปาชีพ ด้วยเจตนารมณ์เดียวกันกับพระองค์  ท่านคือ ทำให้ประชาชนรวมตัวกันใช้ภูมิปัญญาของบรรพบุรุษที่ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น มาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและประโยชน์สุขให้กับชาวไทยทุกคน

          ซึ่งวันนี้ ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในโครงการผ้าไหมที่ถือเป็นลมหายใจเป็นชีวิตเป็นอนาคตของลูกหลานโดยเครื่องหมายสัญลักษณ์พระราชทาน “นาหว้า โมเดล” จะมาเปลี่ยนแปลงให้ลูกหลานชาวนาหว้า ได้มีชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน จังหวัดนครพนม จึงพร้อมที่จะขับเคลื่อนผ้าศิลปาชีพเฉลิมพระเกียรติ 90 พรรษา สมเด็จพระบรม ราชชนนีพันปีหลวง และขับเคลื่อน “นาหว้า โมเดล” เพื่อสืบสาน รักษา ต่อยอดผ้าไทยจากภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ ให้มีความยั่งยืน และมั่นคง คู่กับเมืองไทยต่อไป....///....

 

ส.ปชส.ยโสธร/ข่าว/ 13 มิ.ย.65

แชร์ข่าวนี้