เมื่อเวลา 18.00 น. วานนี้ (11 พ.ค.65) นายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการ จังหวัดยโสธร เป็นประธานเปิดงาน นมัสการหลวงพ่อพระสุก วัดศรีธรรมาราม (พระอารามหลวง) อ.เมืองยโสธร โดยมีนายสุวัฒน์ เข็มเพชร,นายชัยวัฒน์ แสงศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร พร้อมหัวหน้าส่วนราชการและพุทธศาสนิกชน เข้าร่วมงาน
ซึ่งจังหวัดยโสธร โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยโสธร จัดงานประเพณี นมัสการหลวงพ่อพระสุก วัดศรีธรรมาราม (พระอารามหลวง) ประจำปี 2565 โดย “หลวงพ่อพระสุก” เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หรือปางสะดุ้งมาร ศิลปะสมัย รัตนโกสินทร์ ชนิดสำริด หน้าตักกว้าง 90 เซนติเมตร สูงรวมฐาน 170 เซนติเมตร ขึ้นทะเบียนกรมศิลปากร เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2548 ปัจจุบันประดิษฐานที่ พิพิธภัณฑ์ พระเทพสังวรญาณ (หลวงตาพวง สุขินทริโย) วัดศรีธรรมาราม (พระอารามหลวง) ตำบลในเมือง อำเภอเมืองยโสธร ซึ่งมีการจัดงานนมัสการ หลวงพ่อพระสุกเป็นประจำทุกปี เพื่อแผ่บารมีความสงบ ความร่มเย็น ให้แก่สาธุ ชนชาวยโสธรและสาธุชนทั่วประเทศ
ในการจัดงาน โดยการนำทุนทางวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ มาพัฒนา ต่อยอดให้เกิดคุณค่าทางสังคมและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ด้วยการ ท่องเที่ยวเชิง วัฒนธรรม เช่น จัดพิธีสักการะหลวงพ่อพระสุก พิธีน้อมรำลึกถึงบูรพาจารย์ พระเทพสังวรญาณ (หลวงตาพวง สุขินทริโย) พิธีเจริญพระพุทธมนต์ พิธีทำบุญ ตักบาตร การจัดแสดงนิทรรศการหลวงพ่อพระสุกและพระเทพสังวรญาณ กิจกรรม ส่งเสริม สนับสนุนการขับเคลื่อนการนำ “Soft Power” ความเป็นไทย 5 F มา พัฒนา ต่อยอด ขับเคลื่อนให้เกิดเป็น “เศรษฐกิจวัฒนธรรมใหม่ สร้างรายได้ เสริมคุณค่า พัฒนาสังคม” เช่น การแสดงศิลปะวัฒนธรรมของศิลปินที่มีชื่อเสียง การสาธิตมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม เช่น การสับลายบั้งไฟ การทำมาลัย ข้าวตอก การทำตัวหนังประโมทัย การแทงหยวกกล้วย การสาธิตและจัดจำหน่าย ผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย CPOT ผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมชุมชนไทย CCPOT, ผลิตภัณฑ์ OTOP
พร้อมนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ได้กล่าวว่า การจัดงานประเพณีนมัสการ หลวงพ่อพระสุก เป็นการพัฒนาและยกระดับเทศกาลประเพณี ซึ่งเป็นการนำทุนทาง วัฒนธรรม และความคิดสร้างสรรค์มาพัฒนาต่อยอด ให้เกิดคุณค่าทางสังคม และเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของจังหวัดและประชาสัมพันธ์ให้จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดเป้าหมายด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมมากยิ่งขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ ในการพัฒนาจังหวัด การขับเคลื่อนตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านการสร้างโอกาส และความเสมอภาคทางสังคมและด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน รวมทั้ง สอดรับกับนโยบายของกระทรวงวัฒนธรรมที่จะปรับเปลี่ยนไปสู่ “กระทรวงสังคม กึ่งเศรษฐกิจ” โดยมุ่งเน้นในการขับเคลื่อนงานวัฒนธรรม และความคิดสร้างสรรค์ ให้มีบทบาทในการพัฒนา “เศรษฐกิจวัฒนธรรมใหม่ สร้างรายได้ เสริมคุณค่า พัฒนาสังคม” รวมทั้งผลักดันงานด้านศิลปะวัฒนธรรม ให้มีบทบาทในการพลิกฟื้น เศรษฐกิจและสังคมของไทยภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด - 19 อีกด้วย....////....
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร/ข่าว/12 พ.ค.65