รอง ผวจ.ยโสธร นำตักบาตรย้อนยุค วิถีถิ่น วิถีไทย “สะออน 50 ปี ศรียโสธร” ที่ถนนคนเดิน หน้าศาลหลักเมืองยโสธร

เมื่อเวลา 06.30 น. วันนี้ (1 เม.ย.65)  นายชัยวัฒน์  แสงศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธานในกิจกรรม ตักบาตร วิถีถิ่น วิถีไทย ที่ถนนคนเดินหน้าวัดสิงห์ท่า ตำบลในเมือง อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร โดยมีนายชัยวัฒน์ ชัยเวชพิสิฐ ปลัดจังหวัดยโสธร หัวหน้าส่วนราชการ พุทธศาสนิกชน ร่วมตักบาตร พระภิกษุ/สามเณร จำนวน 22 รูป

      โอกาสนี้ พระครูอนุรักษ์วรดิตถ์ เจ้าคณะอำเภอเมืองยโสธร เจ้าอาวาสวัดสิงห์ท่า ประธานฝ่ายสงฆ์ ได้กล่าวสัมโมทนียกถาแก่ พุทธศาสนิกชน ที่มาร่วมทำบุญตักบาตรว่า                                     " ในช่วงเดือนนี้ กำลังเข้าสู่ฤดูฝนแล้วจึงนำหลักธรรม ข้อคิด“การดำเนิน ชีวิต  ในหัวข้อเรื่อง อโรคยา ปรมาลาภา การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ”

ปัจจุบันโรคที่ส่งผลกระทบต่อคนในทุกระดับชั้น คือโรคโควิด-19 โรค ก็พัฒนาเก่ง พอเกิดขึ้นก็จะคุกคาม ชีวิต ทรัพย์สินความเป็นอยู่ วิถีในการ ดำเนินชีวิต ของประชากรโลกอยู่ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะยากดี มีจน คนในทุก ระดับ ในทุกตำแหน่ง แม้แต่คุณหมอ พยาบาล ก็ไม่มีใครหลีกหนีไปได้    ในความเจ็บป่วย ไม่ว่าจะเป็นยุคใดสมัยใดก็ยังเป็นคำพูด ที่ฟังดูแล้ว ไม่ล้าสมัย การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ เพราะคงจะไม่มีใครปฏิเสธว่า การมีสุขภาพดี มีค่ากว่าการมีเงินทองด้วยซ้ำไป เพราะแม้ว่าจะมีเงินมา กองจนท่วมตัวก็ไม่สามารถซื้อสุขภาพที่ดีให้กลับคืนมาได้

      โรคที่มาจากภายนอกเล่านี้ แต่ก็ยังรักษาหายได้ และอาจจะรักษา ไม่หายบ้างตามอายุสังขารร่างกาย แต่โรคที่รักษาได้ยาก คือโรคภายใน คือโรคของความคิด ความต้องการ เป็นความอยากที่ไม่รู้จักจบสิ้น เป็นโรคที่รักษาได้ยาก  ดังพุทธศาสนสุภาษิต ชิฆจฺฉา ปรมา โรคา “ความหิว เป็นโรคอย่างยิ่ง” ความหิว คือสภาพที่บีบคั้นให้ต้องหาสิ่งมา ตอบสนองปรนเปรอ ความหิวทางกาย เช่น หิวน้ำ หิวข้าว จำเป็นอย่างยิ่ง ที่ต้องหาน้ำหาอาหารมาบรรเทาความหิว ให้ความหิวหายไป โรคภายใน คือ ความอยากจะได้มาก อยากเพราะความโลภ ความอยากที่ไม่มีที่สิ้นสุด ความอยากยิ่งๆ ขึ้นไป ความอยากเหล่านี้ คือ ตัณหา ถือได้ว่าเป็นโรค ที่แทบจะไม่มียารักษา

       กว่าองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะหาวิธีรักษาโรคเหล่านี้ได้ มิใช่ เรื่องง่าย ปัญญาเท่านั้น ที่เป็นตัวรู้เท่าทัน และแก้ไขโรคนี้ได้ สติปัญญา คือตัวแก้ที่สำคัญ ปัญญานั้นส่องสว่างให้มนุษย์เห็นถูกเห็นผิด เห็นทางและ มิใช่ทางเห็นประโยชน์และมิใช่ประโยชน์ ช่วยให้มนุษย์สามารถละทิ้งสิ่งที่ผิด ถือเอาสิ่งที่ถูกได้ ปัญญาทำให้บุคคลสามารถดำรงตนอยู่บนโลกนี้ได้ ปัญญาทำให้บุคคลสามารถกำจัดอวิชชาออกจากจิตจากใจได้และปัญญาทำให้บุคคลถึงความพ้นทุกข์ได้" ...////.....

 

                                                                                            ส.ปชส.ยโสธร/ข่าว/ 1 เม.ย.65

แชร์ข่าวนี้