วันศุกร์ที่ ๑ เมษายน ๒๕๖๕ เวลา ๐๖.๐๐ น.
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยโสธร ร่วมกับส่วนราชการ เทศบาลเมืองยโสธร จัดกิจกรรมตักบาตร วิถีถิ่น วิถีไทย ณ ถนนคนเดินหน้าวัดสิงห์ท่า ตำบลในเมือง อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร โดยมีนายชัยวัฒน์ แสงศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธานในกิจกรรม พร้อมด้วยนายชัยวัฒน์ ชัยเวชพิสิฐ ปลัดจังหวัดยโสธร และหัวหน้าส่วนราชการ พุทธศาสนิกชน ร่วมตักบาตร พระภิกษุ/สามเณร จำนวน ๒๒ รูป ส่วนราชการ หน่วยงาน องค์กร และพุทธศาสนิกชน จำนวน ๘๔ คน รวม ๑๐๖ รูป/คน
โอกาสนี้ พระครูอนุรักษ์วรดิตถ์ เจ้าคณะอำเภอเมืองยโสธร เจ้าอาวาสวัดสิงห์ท่า ประธานฝ่ายสงฆ์ได้กล่าวสัมโมทนียกถาแก่พุทธศาสนิกชนที่มาร่วมทำบุญตักบาตรว่า ในเช้าวันศุกร์ที่ ๑ เมษายน ๒๕๖๕ นี้ ในช่วงเดือนนี้ กำลังเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว เช้าวันนี้ ตื่นแต่เช้าทำบุญตักบาตรร่วมกัน เป็นการได้ทำหน้าที่พุทธศาสนิกชน ในการสะสมบุญ สะสมกุศล ในเช้าวันนี้ จึงนำหลักธรรมข้อคิด“การดำเนินชีวิต ในหัวข้อเรื่อง อโรคยา ปรมาลาภา การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ ปัจจุบันโรคที่ส่งผลกระทบต่อคนในทุกระดับชั้น คือ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) แต่โรคก็พัฒนาเก่งไม่แพ้กัน พอเกิดขึ้นแล้วก็จะคุกคาม ชีวิต ทรัพย์สินความเป็นอยู่ วิถีในการดำเนินชีวิต ของประชากรโลกอยู่ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะยากดี มีจน คนในทุกระดับ ในทุกตำแหน่ง แม้แต่คุณหมอ พยาบาล ก็ไม่มีใครหลีกหนีไปได้ ในความเจ็บป่วย ไม่ว่าจะเป็นยุคใดสมัยใดก็ยังเป็นคำพูดที่ฟังดูแล้วไม่ล้าสมัยการไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ เพราะคงจะไม่มีใครปฏิเสธว่าการมีสุขภาพดี มีค่ากว่าการมีเงินทองด้วยซ้ำไป เพราะแม้ว่าจะมีเงินมากองจนท่วมตัวก็ไม่สามารถซื้อสุขภาพที่ดีให้กลับคืนมาได้ โรคที่มาจากภายนอกเล่านี้ แต่ก็ยังรักษาหายได้ และอาจจะรักษาไม่หายบ้างตามอายุสังขารร่างกาย แต่โรคที่รักษาได้ยาก คือโรคภายใน คือโรคของความคิด ความต้องการ เป็นความอยากที่ไม่รู้จักจบสิ้น เป็นโรคที่รักษาได้ยาก ดังพุทธศาสนสุภาษิต ชิฆจฺฉา ปรมา โรคา “ความหิว เป็นโรคอย่างยิ่ง” ความหิว คือสภาพที่บีบคั้นให้ต้องหาสิ่งมาตอบสนองปรนเปรอ ความหิวทางกาย เช่น หิวน้ำ หิวข้าว จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องหาน้ำหาอาหารมาบรรเทาความหิว ให้ความหิวหายไป โรคภายใน คือ ความอยากจะได้มาก อยากเพราะความโลภ ความอยากที่ไม่มีที่สิ้นสุด ความอยากยิ่งๆขึ้นไป ความอยากเหล่านี้ คือ ตัณหา ถือได้ว่าเป็นโรคที่แทบจะไม่มียารักษา กว่าองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะหาวิธีรักษาโรคเหล่านี้ได้ มิใช่เรื่องง่าย ปัญญาเท่านั้น ที่เป็นตัวรู้เท่าทัน และแก้ไขโรคนี้ได้ สติปัญญา คือตัวแก้ที่สำคัญ ปัญญานั้นส่องสว่างให้มนุษย์เห็นถูกเห็นผิด เห็นทางและมิใช่ทาง เห็นประโยชน์และมิใช่ประโยชน์ ช่วยให้มนุษย์สามารถละทิ้งสิ่งที่ผิด ถือเอาสิ่งที่ถูกได้ ปัญญาทำให้บุคคลสามารถดำรงตนอยู่บนโลกนี้ได้ ปัญญาทำให้บุคคลสามารถกำจัดอวิชชาออกจากจิตจากใจได้ และปัญญา ทำให้บุคคลถึงความพ้นทุกข์ได้
ในโอกาสนี้ขอตั้งจิตให้ท่านทั้งหลายนั้นได้เอาธรรมะเป็นเครื่องดำรงชีวิต เอาความไม่ประมาทเป็นเครื่องดำเนินชีวิต และดำเนินชีวิตอยู่ด้วยความเป็นธรรม คือให้ธรรมะเป็นเครื่องนำพาไป ขอธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอธรรมะที่ท่านปฏิบัติด้วยดีโดยสม่ำเสมอ จงเป็นเกราะ เป็นเครื่องป้องกันภัยทั้งหลายทั้งปวงอย่าให้เกิดขึ้นแก่ทุกท่าน ให้ดำเนินไป โดยมีความสุขกาย ความสุขใจ ความอยู่ดี ความมีสุข ความแคล้วคลาดปราศจากทุกข์โศกโรคภัย จงบังเกิดแก่ทุกท่าน ขออำนาจแห่งคุณพระรัตนตรัยและบุญกุศลที่ท่านกระทำก็ดี จงส่งเสริมดลบันดาลให้ทุกท่านได้รับความสุขดังที่ปรารถนา ทุกประการ ทุกๆท่านตลอดไปเทอญ
ทั้งนี้ ผู้ร่วมกิจกรรมได้แต่งกายด้วยชุดผ้าไทย เพื่อเป็นการรณรงค์ สืบสานอนุรักษ์ศิลป์ ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน ซึ่งเป็นการดำเนินการตามนโยบายของกระทรวงวัฒนธรรม
ในการจัดกิจกรรมดังกล่าวได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ของกระทรวงสาธารณสุข และมาตรการของจังหวัดยโสธรอย่างเคร่งครัด
www.m-culture.go.th/yasothon #สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยโสธร #สวจยส. #yasothonculture #yasothon #culture #จังหวัดยโสธร #ยโสธร #ยส #วัฒนธรรมยโส #วัฒนธรรม