วันศุกร์ที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๖๕ เวลา ๐๖.๑๕ น.
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยโสธร ร่วมกับส่วนราชการ จัดกิจกรรมตักบาตรย้อนยุค วิถีถิ่น วิถีไทย ณ ถนนคนเดินเมืองเก่าบ้านสิงห์ท่า ตำบลในเมือง อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร โดยมีนายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธานในกิจกรรม โดยมีนายชัยวัฒน์ แสงศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร และนายชัยวัฒน์ ชัยเวชพิสิฐ ปลัดจังหวัดยโสธร พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ พุทธศาสนิกชน ร่วมตักบาตร พระภิกษุ/สามเณร จำนวน ๑๘ รูป ส่วนราชการ หน่วยงาน องค์กร และพุทธศาสนิกชน จำนวน ๗๒ คน รวมทั้งสิ้น ๙๐ รูป/คน
โอกาสนี้ พระครูอนุรักษ์วรดิตถ์ เจ้าคณะอำเภอเมืองยโสธร เจ้าอาวาสวัดสิงห์ท่า ประธานฝ่ายสงฆ์ได้กล่าวสัมโมทนียกถาแก่พุทธศาสนิกชนที่มาร่วมทำบุญตักบาตรว่า…
ฤดูนี้ มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องปรับตัว เพราะว่าส่วนหนึ่งอากาศร้อน อบอ้าว เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อาหารบูดหรือเสียได้ง่าย เฉกเช่นกับจิตใจของคนเราเมื่อเข้าสู่ฤดูร้อน ก็อบอ้าว ทำให้เกิดความหงุดหงิด อารมณ์เสีย แม้แต่จิตใจบางครั้งก็ร้อนมากกว่าอากาศ สิ่งที่เป็นเครื่องปกปักรักษาเราไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดก็ตาม ร่างกายของเราก็มักมีสิ่งคุ้มกัน คุ้มครอง รักษาเรา ส่วนใดที่ไม่ดี ร่างกายก็กำจัดออกไป สิ่งใดที่เป็นส่วนเกินร่างกายก็กำจัดออกไป ส่วนใดที่เหมาะสม ร่างกายก็จะรักษาสิ่งนั้น และนำไปใช้ประโยชน์ นั่นก็คือกลไกของร่างกาย สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ได้กล่าวถึงสิ่งที่ปกปักรักษา ให้โลกนี้ อยู่รอดปลอดภัย เป็นสุขตามสมควร สิ่งนั้นก็คือ ธรรมะที่เป็นเครื่องรักษาโลก ๒ ข้อ อันได้แก่
๑. “หิริ” นั่นคือความละอายในการทำสิ่งที่ผิด หรือความเป็นบาป การรู้จักหักห้าม พึงรู้ว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งไม่ดี คำว่าละอายในที่นี้ พระพุทธองค์ได้เปรียบเทียบเป็นรูปธรรมว่า คนเราชอบสิ่งที่สะอาดสะอ้าน สวยงาม แต่จะรังเกียจสิ่งที่เป็นสิ่งสกปรก แม้เสื้อผ้าที่มีกลิ่นอับ กลิ่นเหม็นก็ไม่อยากสวมใส่ คนที่ชอบความสวยงาม สะอาจสะอ้านนั้น มักรังเกียจสิ่งที่สกปรกที่มาแปดเปื้อนต่อร่างกายฉันใด คนที่มีจิตใจละอายต่อบาปก็ไม่มีจิตใจที่อยากจะทำผิดหรือทำบาป นั่นคือ การละอายต่อบาป
๒. “โอตตัปปะ” คือบุคคลที่มีความละอายต่อบาป (หิริ) แล้วนั้น ก็จะเกิดความเกรงกลัว ยกตัวอย่าง เมื่อเราเกรงกลัวต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น กลัวผี กลัวสัตว์ร้าย กลัวสิ่งที่น่ากลัว ก็มักจะไม่กล้าเข้าไปใกล้ เหมือนกับคนเฒ่าคนแก่ที่สอนว่า ถ้าหากว่ามองสิ่งที่เป็นบาป เป็นกรรมนั้นเป็นสิ่งที่น่ากลัวก็จะไม่ทำสิ่งนั้น พระพุทธองค์ท่านกล่าวว่า บุคคลใดที่มองเห็นความบาปนั้นเป็นเหมือนอสรพิษที่คิดร้าย เหมือนกันกับงูที่มีพิษ ก็ไม่อยากจะเข้าใกล้ เช่นกันกับเสือ หรือสัตว์ร้ายที่มีพิษมีภัย เพราะเกรงกลัวว่าสิ่งนั้นจะอันตรายต่อตัวเรา ดังนั้นถ้าหากว่าบุคคลนั้นเกรงกลัวต่อบาป ต่อกรรมที่เกิดจากผลของการกระทำนั้น ก็คือ โอตตัปปะ
พระพุทธองค์ท่านกล่าวว่าธรรมะ ๒ ข้อนี้ ท่านยกย่องว่าเป็น “โลกบาล” คือเป็นธรรมเครื่องคุ้มครองโลกให้อยู่เป็นสุขได้ ถ้าบุคคลประพฤติปฏิบัติธรรมะเพียง ๒ ข้อนี้นั้น โลกนี้จะงดงาม สดใส และอยู่อย่างมีความสุข เหมือนกับทุกๆ ท่านที่มาร่วมกัน บำเพ็ญกุศล ทำบุญตักบาตรพร้อมกันในทุกๆ เช้าวันศุกร์ ในโอกาสนี้ท่านทั้งหลายได้กระทำบำเพ็ญบุญตามทุกๆ โอกาสทุกๆ วัน หรือเมื่อมีโอกาสในวันใดก็ได้กระทำกุศลในส่วนนี้อยู่สม่ำเสมอ ขออานิสงส์ผลบุญที่ท่านทั้งหลายที่มีเจตนาอันเป็นบุญ เป็นกุศล และด้วยอำนาจของคุณพระรัตนตรัย ได้โปรดส่งผลดลบันดาล ให้ทุกท่านได้รับความสุขกายสุขใจ อยู่ดีมีสุข ปราศจากโรคภัย ปรารถนาสิ่งใดที่เหมาะที่ควร ที่พึงจะเป็น ขอความปรารถนาเหล่านั้น จงสัมฤทธิ์ผลดังที่ปรารถนาทุกๆ ประการทุกๆ ท่านตลอดไปเทอญฯ
ทั้งนี้ ผู้ร่วมกิจกรรมได้แต่งกายด้วยชุดผ้าไทย เพื่อเป็นการรณรงค์ สืบสานอนุรักษ์ศิลป์ ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน ซึ่งเป็นการดำเนินการตามนโยบายของกระทรวงวัฒนธรรม
ในการจัดกิจกรรมดังกล่าวได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ของกระทรวงสาธารณสุข และมาตรการของจังหวัดยโสธรอย่างเคร่งครัด????????
www.m-culture.go.th/yasothon #สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยโสธร #สวจยส. #yasothonculture #yasothon #culture #จังหวัดยโสธร #ยโสธร #ยส #วัฒนธรรมยโส #วัฒนธรรม