เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (31 มี.ค. 65) นายชัยวัฒน์ แสงศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธานประกอบพิธีใน “วันที่ระลึก พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า” โดยมี หัวหน้าหน่วยงานราชการ ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เหล่ากาชาดจังหวัด ร่วมพิธี ที่หอประชุมวิถีอีสาน ศาลากลางจังหวัดยโสธร
โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ประธานสงฆ์ โดยพระเทพวงศาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดยโสธร เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุ (พระอารามหลวง) ให้ศีล ประธานนำหัวหน้าส่วน ราชการ ถวายภัตตาหารและจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์ 10 รูป จากนั้น ประธานวางพานพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะ พระบรม สาทิศลักษณ์ พร้อมกล่าวคำประกาศราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติคุณ เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทิตาธรรม น้อมรำลึกถึงพระเกียรติคุณ และพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อขึ้นครองราชย์ บ้านเมืองเริ่ม เผชิญปัญหากับต่างประเทศทั้งยุโรปและอเมริกา ได้ทรงผ่อนปรนไม่ให้ กระทบกระเทือน ผลประโยชน์ของประเทศและสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศ ซึ่งเป็นแนวทางให้รัชกาลต่อมาทรงยึดถือและเจริญรอยตาม ทำให้ชาติไทยคงความเป็นเอกราชอยู่ได้จนปัจจุบัน
ในความอุดมสมบูรณ์ของบ้านเมืองและประชาชน ทรงติดต่อค้าขาย กับนานาประเทศ เกิดรายได้มาเป็นงบประมาณบำรุงแผ่นดิน ข้าราชการ ได้รับพระราชทานเบี้ยหวัดเงินเดือน เป็นครั้งแรก ทรงปรับปรุงระบบการ เก็บภาษีอากร ทรงเกื้อกูลพระศาสนาให้เจริญรุ่งเรือง ทรงบูรณะพระอาราม ที่สร้างมาตั้งแต่ต้นรัชกาลที่ 1 จนเกิดพระอารามใหม่ที่มีศิลปกรรม เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ กว่า 30 พระอาราม ทรงสร้างคัมภีร์พระไตรปิฎก อันเป็นหัวใจของการศึกษาพระธรรมบท ทรงโปรดให้จารึกความรู้ สาขา ต่างๆ ไว้ภายในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์ เพื่อให้ประชาชน ได้มีโอกาสศึกษาอย่างกว้างขวาง จนกล่าวกันว่าวัดโพธิ์ คือมหาวิทยาลัย แห่งแรกของไทย
ในการรักษาความมั่นคงของประเทศ ทรงทุ่มเทป้องกันข้าศึก ด้วยการส่งกองทัพไปปราบปราม ทรงทำลายฝิ่น ซึ่งเป็นยาเสพติดร้ายแรง ทรงจัดสรรพระราชทรัพย์ไว้ทำนุบำรุงพระอารามที่ยังก่อสร้างค้างอยู่ให้สำเร็จ พระราชทานทรัพย์ไว้แก่แผ่นดิน ซึ่งเก็บรักษาไว้ในถุงแดง หลายหมื่นชั่ง ซึ่งต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงนำมาเป็นค่าใช้จ่าย ชดใช้แลกเปลี่ยนอธิปไตยของชาติ ในกรณีพิพาทดินแดนระหว่างไทยกับฝรั่งเศส เมื่อ รศ. 112 พระราชกรณียกิจตลอดเวลา 27 ปีแห่งการครองราชย์ ทรงสร้างสรรค์คุณ ประโยชน์ เอนกอนันต์อันเป็นรากฐานแห่งความเจริญวัฒนามาจนปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และพระองค์แรกที่ประสูติ แต่เจ้าจอมมารดาเรียม (ภายหลังได้รับสถาปนาเป็นสมเด็จพระศรีสุลาลัย) เสด็จพระราชสมภพเมื่อ วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2330 เสวยราชสมบัติ เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2367 สิริดำรงราชสมบัติได้ 26 ปี 255 วัน เสด็จสวรรคตวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2394 สิริพระชนมพรรษา 63 ปี 2 วัน...////
ส.ปชส.ยโสธร/ข่าว/31 มี.ค.65